ไม่ต้องรอค่ำ! ใช้กล้องส่องทางไกล Thermal ในตอนกลางวันยังไงให้คมชัด!! ท่ามกลางแสงจ้า
แม้กล้องถ่ายภาพความร้อน หรือ กล้องตรวจจับความร้อน มักถูกนำไปใช้ในตอนกลางคืนเพื่อทลายข้อจำกัดด้านการมองเห็นในที่มืด แต่ความจริงแล้ว กล้อง Thermal Imaging ยังสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในตอนกลางวันเช่นกัน ด้วยเทคโนโลยีอินฟราเรดที่ตรวจจับความร้อน ไม่ใช่การตรวจจับแสง ทำให้กล้องเหล่านี้สามารถมองเห็นวัตถุ หรือสิ่งมีชีวิตที่ปล่อยความร้อนได้ดี แม้อยู่ในสภาพแสงจ้า เพียงแต่ต้องใช้กล้องจับความร้อนอย่างเหมาะสม รวมไปถึงการปรับการตั้งค่าที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ข้อดีของการใช้งานกล้องส่องทางไกลจับความร้อน ในตอนกลางวัน
ในช่วงเวลากลางวัน กล้องจับความร้อนมีข้อดีและประโยชน์การใช้งานที่หลากหลาย สำหรับอาชีพหรือการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การเฝ้าติดตามสัตว์ป่า โดยสัตว์ที่พรางตัว และมักซ่อนตัวอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนได้อย่างชำนาญ กล้องจับความร้อนจะสามารถเจอเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย จากรังสีความร้อนในตัวของพวกมัน
ทำความเข้าใจหลักการทำงานของกล้อง Thermal
กล้อง Thermal ทำงานโดยการตรวจจับรังสีอินฟราเรดที่ปล่อยออกมาจากวัตถุต่างๆ ซึ่งรังสีอินฟราเรดนี้เป็นสัญญาณความร้อนที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า กล้องจะแปลงสัญญาณความร้อนเหล่านี้ให้เป็นภาพที่มองเห็นได้ ทำให้เราสามารถ "มองเห็น" ความร้อนที่แผ่ออกมาจากวัตถุต่างๆ ได้ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการทำงาน สามารถเข้าไปอ่านบทความนี้ >> สิ่งที่คุณต้องรู้ ระหว่างกล้องถ่ายภาพความร้อน vs กล้องมองกลางคืน ได้เลย
จากการตรวจจับภาพในรูปแบบของความร้อน ภายในกล้องจับความร้อนแต่ละตัวจึงมีส่วนประกอบที่สำคัญ ได้แก่ เซ็นเซอร์จับรังสีความร้อน หรือ Thermal radiation , Processor ที่แปลงข้อมูลเป็นภาพ และหน้าจอแสดงผลที่แสดงภาพนั้นออกมา โดยคุณภาพของส่วนประกอบเหล่านี้ ก็ส่งผลโดยตรงต่อความคมชัดของภาพเป็นอย่างมาก
และถึงแม้การทำงานของกล้องจับความร้อน จะไม่ขึ้นอยู่กับความสว่างหรือแสงใดๆเลยก็ตาม แต่ในตอนกลางวันที่มีแสงแดดแผดเผา ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้การแยกแยะอุณหภูมิ มีขีดจำกัดมากขึ้นได้ เช่น
- ความร้อนของแสงแดด หรือสัญญาณรบกวนจากดวงอาทิตย์ แน่นอนว่าประเทศไทย มักมีอากาศที่ร้อนไปจนถึงร้อนมากในตอนกลางวัน การที่แสงแดดส่องกระทบสิ่งของต่างๆที่ปกติมีอุณหภูมิค่อนข้างต่ำ หรือโดนแสงแดดร้อนๆนั้นโดยตรง ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะทำให้สิ่งเหล่านั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้น อาจทำให้สภาพแวดล้อมโดยรวม ณ ที่ตรงนั้น มีอุณภูมิที่สูงหรือใกล้เคียงกับสิ่งมีชีวิตมากขึ้น ส่งผลให้ตัวกล้องจับความร้อน แยกแยะความต่างของอุณหภูมิได้ยากขึ้น
- การสะท้อนแสงของวัตถุบางชนิด เช่น กระจก หรือโลหะ ที่สะท้อนรังสีอินฟราเรดจากดวงอาทิตย์ ทำให้เกิดแสงจ้าบนภาพที่แสดงบนกล้อง Thermal ส่งผลให้การมองเห็นลดลงได้ง่าย
- อาจทำให้ระยะการตรวจจับลดลง เนื่องจากความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสภาพแวดล้อมลดลง
เทคนิคการใช้งานในตอนกลางวัน
ในบทความนี้ ได้แบ่งเทคนิคออกเป็น 2 หัวข้อใหญ่ๆ
1. การจัดการและเตรียมตัวกับสภาพแวดล้อม
1.1 เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม : แนะนำใช้กล้อง Thermal ในที่ร่ม หรือใช้ในช่วงเวลาที่แสงแดดไม่แรงมาก เช่น ตอนเช้าตรู่หรือตอนเย็น
1.2 หลีกเลี่ยงการถ่ายภาพวัตถุที่สะท้อนแสง : เช่น กระจก หรือโลหะ ซึ่งอาจทำให้เกิดแสงจ้าบนภาพได้ ควรหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพวัตถุเหล่านี้ หรือเปลี่ยนมุมกล้อง เพื่อลดการสะท้อนแสง
1.3 ทำความเข้าใจปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม : ความชื้น ฝน หมอก หรือสภาพบรรยากาศอื่นๆ อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของการถ่ายภาพความร้อนในระหว่างวันได้
1.4 ใช้ร่วมกับกล้องปกติ : หากต้องการระบุตำแหน่งของวัตถุที่แน่นอน ลองใช้กล้อง Thermal Monocular ร่วมกับกล้องแสงปกติ เพื่อการเปรียบเทียบภาพและระบุตำแหน่งได้แม่นยำยิ่งขึ้น
1.5 ฝึกฝน และใช้ให้ชำนาญ : เช่นเดียวกับทักษะหรือเครื่องมือใดๆ ความเชี่ยวชาญในการใช้กล้องส่องทางไกลจับความร้อน ก็มาจากการฝึกฝนเช่นกัน ให้ใช้เวลาไปกับการใช้กล้องของคุณภายใต้เงื่อนไขต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจว่าปัจจัยต่างๆ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานอย่างไร
2. การจัดการอุปกรณ์และกล้อง Thermal
2.1 เลือกกล้องที่มีค่า NETD ต่ำ : แม้ในเวลากลางวัน วัตถุต่างๆจะยังคงปล่อยรังสีอินฟราเรดออกมา แต่แสงอาทิตย์ก็เป็นแหล่งกำเนิดรังสีอินฟราเรดเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดสัญญาณรบกวนในภาพ กล้องที่มีค่า NETD ต่ำ จะสามารถกรองสัญญาณรบกวนจากแสงอาทิตย์ได้ดีกว่า ยิ่งค่า NETD ต่ำ จะยิ่งแยกแยะอุณหภูมิที่มีความใกล้เคียงกันมากๆให้แสดงภาพออกมาเป็นรูปร่างได้ดีขึ้น ไม่ทำให้ภาพนั้นรวมเป็นเนื้อเดียวกันจนแยกแยะวัตถุไม่ออก
ภาพเคลื่อนไหวจาก Hikmicro HABROK HH35L ค่า NETD<20 mK
2.2 เปลี่ยนโหมดภาพ หรือใช้จานสีที่เหมาะสม : กล้องจับความร้อนมักมีโหมดภาพการแสดงผลหลายแบบให้เลือกใช้ โดยจะเห็นเป็นภาพความร้อนในเฉดสีต่างๆ หรือภาพขาวดำ ให้ทดลองเลือกใช้ด้วยตัวเอง เพื่อดูว่าจานสีใด แสดงความต่างของอุณหภูมิได้ดีที่สุดในช่วงเวลากลางวัน

2.3 ใช้ฟังก์ชันปรับปรุงภาพ : กล้อง Thermal Monocular หลายรุ่น มีฟังก์ชันการปรับปรุงภาพ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถปรับการแสดงผลได้ตามการใช้งานของแต่ละบุคคล เช่น ปรับ Contrast, Sharpness หรือเปิดการใช้งานการปรับปรุงภาพสำเร็จรูป เช่น Image Pro, FFC Mode

2.4 สแกนอย่างช้าๆ หรือใช้ขาตั้งกล้อง : การเคลื่อนไหวหรือการเปลี่ยนมุมกล้องอย่างรวดเร็ว อาจทำให้มองเห็นความแตกต่างเล็กๆน้อยๆของอุณหภูมิได้ยากขึ้น โดยเฉพาะถ้าเป้าหมายของเรามีขนาดเล็กหรืออยู่ไกลมากๆ

2.5 ป้องกันความเสียหายของเลนส์ : อย่าเล็งกล้องส่องความร้อนไปที่ดวงอาทิตย์โดยตรง เพราะอาจทำให้เซ็นเซอร์ภายในเสียหายได้
2.6 การจัดการแบตเตอรี่ : กล้องถ่ายภาพความร้อน อาจใช้พลังงานมากขึ้นในตอนกลางวัน ดังนั้น ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีแบตเตอรี่สำรอง หรือแหล่งพลังงานภายนอก เพื่อให้อุปกรณ์ทำงานได้อย่างต่อเนื่องเท่าที่ต้องการ
2.7 ใช้โหมดสแตนด์บาย : หากกล้องของคุณมีโหมด Standby, โหมด Sleep หรือโหมด Auto Screen off ให้เปิดใช้งาน เพื่อประหยัดแบตเตอรี่
ตัวอย่างกิจกรรมการใช้งาน Thermal Monocular ในตอนกลางวัน
- การสังเกตและติดตามสัตว์ป่า : การจับความร้อน สามารถเผยให้เห็นสัตว์ที่ซ่อนอยู่ หรือแยกแยะร่องรอยความร้อนบนพื้นผิวต่างๆ ที่สัตว์เดินผ่าน และช่วยในการค้นหาสัตว์ป่าในพุ่มไม้หนาทึบได้
- การสะกดรอยกวางป่า : เจ้าหน้าที่ป่าไม้จำนวนมาก ใช้เครื่องตรวจจับความร้อนเพื่อการจัดการประชากรกวางในพื้นที่ป่า ซึ่งเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหากวางด้วยกล้องส่องทางไกลทั่วไป
- การเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัย : ช่วยระบุตัวบุคคล หรือวัตถุต้องสงสัยที่ปล่อยความร้อนในระดับที่แตกต่างกัน แม้ว่าจะซ่อนอยู่ หรือถูกบดบังบางส่วนก็ตาม
- การค้นหาและกู้ภัย : ในระหว่างปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย สามารถนำมาใช้เพื่อค้นหาผู้สูญหายหรือผู้รอดชีวิตโดยการตรวจจับความร้อนของร่างกาย
- การตรวจสอบด้านอุตสาหกรรม : ตรวจสอบเครื่องจักร ระบบไฟฟ้า และโครงสร้างพื้นฐานในระหว่างวัน โดยสามารถระบุส่วนประกอบที่ร้อนเกินไปหรือตรวจจับความผิดปกติในรูปแบบความร้อนได้อย่างรวดเร็ว
ดังนั้น กล้อง Thermal Monocular จึงเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากมาย ไม่เพียงแต่ในเวลากลางคืนเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในตอนกลางวัน จากการใช้เทคนิคที่เหมาะสมและการฝึกฝนการใช้งานให้ชินมือ เท่านี้ คุณก็จะสามารถใช้กล้อง Thermal Monocular ได้อย่างเต็มประสิทธิาพในทุกสภาพแสงแน่นอน
หากสนใจกล้องจับความร้อน สามารถเลือกชม >> กล้องอินฟราเรด << ประกอบการตัดสินใจ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางเราได้ที่นี่👇