มารู้จักวิธีการเลือกซื้อ " ไฟฉาย " กันดีกว่า

" มารู้จักวิธีการเลือกซื้อไฟฉายกันดีกว่า " 🌹🌹🌹

เวลาเพื่อนๆ ไปเที่ยวหรือไปพักแรมที่ไหน ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ เพื่อความปลอดภัยของเราแล้ว ควรจะมีไฟฉายติดตัวไปทุกครั้งด้วย เพราะไม่ช้าก็เร็วเพื่อนๆ จะต้องรู้สึกดีใจที่มีไฟฉายติดตัวมาด้วยแน่ๆ ก็ในหนึ่งวันมีทั้งเวลากลางวันและเวลากลางคืนนี่นา หลังจากท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับกลางวันอันสว่างไสวแล้ว เรายังต้องเตรียมรับมือกับเวลากลางคืนอันน่าผจญภัยอีกด้วย แล้วไฟฉายก็เป็นอุปกรณ์สำคัญในการมองเห็นในเวลากลางคืนใช่ไหมล่ะ

ดังนั้นเราลองมาดูกันดีกว่า ว่าเวลาจะหาซื้อไฟฉายสักอันควรจะพิจารณาอะไรกันบ้าง …

🌟 1. ขนาดไฟฉาย

มีหลายแบบหลายขนาดด้วยกัน ปกติแล้วนักเดินป่าส่วนมากมักจะพกไฟฉายขนาดเล็กแบบพกพาติดตัว ไม่ว่าจะเป็นไฟฉายมือถือ หรือไฟฉายติดศีรษะ

แต่ถ้าเป็นการเดินทางเป็นหมู่คณะหรือกลุ่มใหญ่ๆ แล้ว บางครั้งอาจจะมีการนำสปอตไลต์้ สำหรับให้ความสว่างในบริเวณกว้างไปด้วย เพื่อความสะดวกสบายในการทำกิจกรรมต่างๆ

🌟 2. รูปแบบไฟฉาย

- ไฟฉายแบบพกพา ( Personal flashlights) หมายถึงไฟฉายขนาดเล็กที่ใช้แบตเตอรี่หรือถ่านไฟฉายเป็นแหล่งกำเนิดไฟ เป็นไฟฉายที่เป็นที่นิยมกันมากที่สุดเนื่องจากมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และง่ายต่อการใช้งาน และยังสามารถกำหนดทิศทางของแสงได้ด้วยว่าจะส่องไปทางใด

- ไฟฉายติดศีรษะ ( Headlamps) มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับไฟฉายแบบพกพา แต่จะมีข้อดีกว่าตรงที่ทำให้เราสามารถใช้มือทั้งสองข้างได้โดยสะดวก ไม่ต้องใช้มือข้างใดข้างหนึ่งไปถือไฟฉายเอาไว้ มีประโยชน์มากๆ เวลาเราต้องการตั้งเต็นท์ ทำกับข้าว หรือทำกิจกรรมอย่างอื่นที่ต้องใช้มือทั้งสองข้างพร้อมๆ กัน

- สปอตไลต์ (Spotlight) จะให้แสงสว่างในบริเวณกว้าง และสว่างมากๆ เหมาะสำหรับใช้งานในเวลาทำกิจกรรมนอกสถานที่ต่างๆ หรือ ใช้ในการทำงานตอนกลางคืนก็ได้

🌟 3. ประเภทของแหล่งพลังงานที่ใช้

เป็นสิ่งจำเป็ฯที่จะต้องพิจารณาถึงด้วย เพราะหากไฟฉายคู่ชีพของเราเกิดพลังงานหมดขึ้นมา ไฟฉายนั้นก็หมดประโยชน์ไป รวมถึงราคาของถ่านด้วย

- ถ่านไฟฉาย ( Batteries)
เป็นตัวเลือกที่สะดวกสบาย หาง่าย และราคาไม่แพง แต่มันก็อาจจะมีน้ำหนักมากได้หากเราต้องเดินทางในระยะเวลานานๆ และต้องเตรียมถ่านไฟฉายไปจำนวนมากๆ

แต่อย่าลืมนะคะว่า ไม่ว่าเราจะขนเอาไฟฉายไปพักแรมด้วยมากเท่าใด เมื่อใช้หมดแล้วเราต้องเอาติดตัวกลับออกมาทิ้งให้ถูกต้องในที่ที่เหมาะสม ด้วยทุกครั้ง ก็ถ่านไฟฉายมีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมน่ะสิคะ รู้อย่างนี้แล้วเพื่อนๆ ต้องกำจัดไฟฉายให้ถูกต้องในที่ที่ควรทิ้งเท่านั้นนะคะ

- อัลคาไลน์ ( Alkaline)
เป็นแหล่งพลังงานราคาถูก ใช้ได้นาน และเวลาพลังงานที่มีใกล้จะหมด มันจะค่อยๆ หรี่ลงทีละนิดๆ ทำให้เรารู้ได้ว่าใกล้เวลาที่แบตเตอรี่จะหมดแล้ว แต่ข้อเสียคืออัลคาไลน์ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในบริเวณที่อากาศ หนาวเย็น

- ลิเธียม ( Lithium)
มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าอัลคาไลน์ น้ำหนักเบากว่า และสามารถใช้ในสภาพอากาศหนาวเย็นมากๆ ถึงขนาดติดลบได้โดยประสิทธิภาพแทบจะไม่ลดลงเลย แต่ลิเธียมก็มีราคาแพงกว่าอัลคาไลน์พอสมควร และเมื่อใช้จนแบตเตอรี่หมดแล้วมันก็จะดับทันทีโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าเลย

- นิกเกิลแคดเมียม ( Nickel-cadmium)
ราคาอาจจะดูแพงหากซื้อในครั้งแรก แต่ในระยะยาวแล้วจะคุ้มกว่ามาก เพราะสามารถรีชาร์จใหม่ได้หลายครั้งมาก บางก้อนอาจจะรีชาร์จใหม่ได้นับ 1,000 ครั้ง แต่ว่าในการชาร์จแต่ละครั้งก็อาจไม่สามารถใช้งานได้นานเท่าอัลคาไลน์หนึ่ง ก้อน และบางครั้งประสิทธิภาพอาจจะลดหย่อนไปบ้างในการชาร์จแต่ละครั้ง แต่ก็มีอายุการใช้งานยืนยาวมาก ในปัจจุบันมีเครื่องชาร์จพลังแสงอาทิตย์ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาจำหน่าย แล้ว ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำติดตัวไปเที่ยวด้วย

🌟 4. พิจารณาจากลักษณะการใช้งาน

ก่อนอื่นต้องพิจารณาความต้องการของเราเองก่อนว่าเราต้องการไฟฉายไปเพื่อทำอะไร โดยตั้งโจทย์ขึ้นมา เช่น

- ต้องการไฟฉายที่มีน้ำหนักเบาและพกพาสะดวก
- ต้องการแบบที่สามารถปรับระดับความสว่างได้ด้วย
- อยากได้แบบที่สามารถเปิด-ปิดได้ง่ายๆ
- อยากได้แบบที่ปรับซูมโฟกัสแสง ให้ขยาย - แคบได้
- ต้องสามารถจะแขวนไว้สูงๆ เพื่อให้ความสว่างรอบบริเวณ
- ต้องการไฟที่สามารถจะถือหรือสวมหัวใส่ได้เวลาทำงานต่างๆ โดยที่สามารถใช้ทั้งสองมือได้อย่างอิสระ

🌟 เมื่อตอบคำถามต่างๆ เหล่านี้ได้แล้ว ทีนี้เราก็จะรู้แล้วล่ะค่ะว่าไฟฉายชนิดใดเหมาะกับความต้องการของเรา 🌟

--------------------------------------------------

😍 หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกไฟฉาย
ติดต่อเราได้นะคะ 😍

🌸 http://www.walkthai.com/category/2

🌸 Line ID : @sjgadget (อย่าลืมใส่ @ ด้วยนะคร้าบบบ)

🌸 Tel. 091-720-3425

-------------------------------------------------

ที่มา http://guide.kapook.com/tip/tip17.php