ส้นเท้าแตกทำไง ปัญหาโลกแตกที่กวนใจสาวๆ แต่จริงๆ แล้วสามารถแก้ไข และ ป้องกันได้ง่ายมากๆ
ส้นเท้าแตกทำไง ปัญหาสุดเซ็งสำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะคุณสาว ๆ ที่มีปัญหาส้นเท้าแตก ส้นเท้าแห้งจนเป็นลายแทง และส้นเท้าด้าน หากมีอาการเช่นนี้ อย่าชะล่าใจนะคะ ควรรีบมารักษา และป้องกันไม่ให้เป็นเยอะขึ้น อย่าปล่อยไว้จนลุกลาม เพราะจะทำให้คุณเสียบุคลิก บางรายผิวหนังบริเวณส้นเท้าแตกมากจนเป็นบาดแผล ทำให้เกิดความเจ็บปวดเวลาเดินเลยทีเดียว
เท้า เป็นอวัยวะที่ถูกใช้งานตลอดแทบทั้งวัน ดังนั้น คนส่วนใหญ่จึงหลีกเลี่ยงปัญหาส้นเท้าแตกได้ยาก ซึ่งปัญหาส้นเท้าแตกนั้นมักจะพบบ่อยกับคนอ้วนเนื่องจากมีน้ำหนักตัวเยอะ หรือกับคนที่ชอบเดินเท้าเปล่าบนพื้นปูน หรือพื้นแข็ง ๆ และยังอาจเกิดได้จากกรรมพันธุ์ คนที่มีฝ่าเท้าหนา และขาดความชุ่มชื่น นอกจากนี้การใส่รองเท้าเปิดส้น หรือรองเท้าที่ไม่มีคุณภาพก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ส้นเท้าแตกได้เช่นเดียวกัน อย่างเช่น ส้นรองเท้าแข็งจนเกินไป หรือรองเท้าบีบรัดส้นเท้าจนเกินไป โดยระยะแรกของอาการส้นเท้าแตกจะเริ่มจากการบวมแดงหรืออักเสบ หากปล่อยทิ้งไว้จะเริ่มหนาแล้วก็แตกเป็นรอยเล็ก ๆ นานไปจะกลายเป็นหนังกำพร้า และมีร่องลึกเป็นเส้นที่บริเวณส้นเท้า หนักกว่านั้นคือส้นเท้าจะแตกเป็นรอยเลือดและมีอาการเจ็บแสบจนแทบเดินไม่ได้กันเลยทีเดียว ทั้งนี้สำหรับสาว ๆ คนไหนที่กำลังมีปัญหาส้นเท้าแตกอยู่อย่าปล่อยทิ้งไว้นานจนกลายเป็นปัญหาลุกลามใหญ่โตนะคะ ควรรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่า เพื่อความสวยงามของเท้าเราเองจ้า
รศ.บัญญัติ สุขศรีงาม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้กล่าวไว้ว่า ปัญหาส้นเท้าแตกของผู้หญิงส่วนมากจะพบในวัยกลางคนจึงถึงสูงอายุ โดยผู้หญิงเหล่านี้ร้อยละ 40 จะมีปัญหาส้นเท้าแตกหรือหยาบกร้าน ที่เป็นเช่นนี้เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของร่างกาย กล่าวคือ ในขณะที่มีอายุมากขึ้นจะมีการเปลี่ยนแปลงที่เซลล์ของผิวหนังบริเวณส้นเท้า โดยเริ่มมีรูพรุนและมีความยืดหยุ่นลดลง ทำให้ไม่สามารถรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังบริเวณนี้ไว้ได้
นอกจากนี้ยังมีหลายเงื่อนไขด้วยกัน ที่ทำให้คุณสาวๆ กลายเป็นเจ้าของส้นเท้าแตกได้ นพ.รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์ หัวหน้าศูนย์ผิวหนัง ความงาม และเลเซอร์ รพ.นครธน ได้ให้ความรู้ไว้ดังนี้
สาเหตุข้อแรก-จากกรรมพันธุ์ ฝ่าเท้าหนา ไม่มีความชุ่มชื่น
ข้อสอง-เป็นโรคภูมิแพ้ เป็นคนผิวหนังแห้ง หรือมีน้ำหนักตัวมากเกินไป เป็นภาวะโรคอ้วน ผิวหนังที่ส้นเท้ารับน้ำหนักมากเกินไป เวลาเดินลงน้ำหนัก เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดส้นเท้าแตกได้
ข้อสาม-จากการเป็นผื่นแพ้ รวมทั้งการเป็นเชื้อรา ผิวตรงบริเวณส้นเท้าเกิดการแตก
และข้อสี่- เกิดจากการเสียดสี เช่น อาจใส่รองเท้าที่แข็ง หรือเดินเท้าเปล่า ทำให้เท้าเสียดสีตามพื้นบ่อยๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หญิงไทยเรานิยมใส่รองเท้าเปิดส้น แฟชั่นรองเท้าแตะแบบหนีบก็อินตลอดกาล ผิวหนังตรงบริเวณส้นเท้าจึงเสียดสีได้ง่าย ยังผลให้นานวันค่อยๆ แข็ง และหนาขึ้น จนเกิดอาการแห้งแตกในที่สุด
และยังตอนขับรถ ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยชอบถอดรองเท้า ไม่ก็ใส่รองเท้าแตะ ทำให้ส้นเท้าไปถูเสียดสีกับพื้นยาง ซึ่งไลฟ์สไตล์เยี่ยงนี้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ส้นท้าแตกด้านได้เช่นกัน
นอกจากนี้ สภาพสิ่งแวดล้อมต่างๆ ก็ยังส่งผลด้วย เช่น สาวออฟฟิศที่ทำงานในห้องแอร์ทั้งวัน ซึ่งอากาศจะมีความชื้นต่ำ ยังผลให้ผิวแห้งทั้งตัวรวมทั้งเท้าด้วย หรือใครที่ชอบแช่เท้าทำความสะอาดผิวด้วยน้ำอุ่นและสบู่บ่อยๆ และแต่ครั้งก็แช่เท้านานๆ แน่นอนแม้เท้าของคุณสะอาดจริง แต่การดูแลเท้าวิธีนี้บ่อยๆ ก็จะเป็นการล้างน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวออกเกินความจำเป็น ยังผลให้เท้าแห้ง ส้นเท้าแตกได้
ดูผลิตภัณฑ์บำรุงส้นเท้าแตกกับทางเราได้เช่นกัน คลิกเลย!
👉 https://www.sjgadget.com/category/66/
ดังนั้น การรักษษส้นเท้าแตกด้าน จะต้องดูว่าสาเหตุมาจากอะไร ต้องแก้ที่ต้นเหตุ ถ้าเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ ภูมิแพ้ สองอันนี้แก้ยาก หมอรัสมิ์ภูมิเผยวิธีการรักษาทางการแพทย์ใช้พวกครีมที่มียูเรีย เพื่อช่วยให้ความชุ่มชื่น เพราะยูเรียจะดูดน้ำจากอากาศเข้าสู่ผิว ทำให้ผิวเกิดความชุ่มชื่น อาการแตกจะดีขึ้น ถ้ายูเรียเปอร์เซ็นต์สูงหน่อย มันจะมีประสิทธิภาพลอกผิวที่หนาให้บางลง ส่วนบรรดาครีมทากันแก้ส้นเท้าแตกที่วางจำหน่ายทั่วไปมีสารตัวนี้ผสมอยู่ ทว่าปริมาณมากน้อยแค่ไหน ประสิทธิภาพขนาดใด คุณต้องดูจากราคา และส่วนผสมบนฉลาก และถ้ามีอาการผื่นคัน ผิวแพ้ อาจเกิดจากการอบชื้น ติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือแพ้น้ำ แพ้พวกผงซักฟอก-น้ำยาขัดพื้น ต้องมาหาหมอรักษา เพราะนั่นขึ้นไปอีกสเต็ป (step) แล้ว ตามภาษาชาวบ้านที่พูดว่า น้ำกัดเท้า เรื่องส้นเท้าแตกเป็นกลุ่มย่อยของกลุ่มน้ำกัดเท้านี้อีกที
กรณีเพียงส้นเท้าแตก หมอรัสมิ์ภูมิแนะนำให้หมั่นใส่ถุงเท้า รวมทั้งตอนขับรถด้วย การตะไบขัดส้นเท้าเป็นวิธีชั่วคราว เอาที่แข็งๆ ออก เดี๋ยวก็ขึ้นมาใหม่ ควรใส่ถุงเท้าดีกว่า แต่บ้านเราอากาศร้อนชื้น ก็ใส่ถึงจุดหนึ่ง ถ้าร้อน ก็ถอดออก อย่าใส่นานจนเท้าอบเป็นเชื้อรา และอาจใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน อย่าง ทาน้ำมันมะพร้าว ผมก็ว่าดีนะครับ
วิธีรักษาส้นเท้าแตก สามารถทำได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- นำเปลือกกล้วยหอมมาถูตรงบริเวณส้นเท้าที่แตก โดยให้ถูไปมา แล้วทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที และล้างออกด้วยน้ำสะอาด เสร็จแล้ว เช็ดให้แห้งพร้อมกับทาครีมบำรุงส้นเท้า วิธีนี้ควรจะทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เพราะกรดผลไม้และสารอาหารในเปลือกกล้วยจะช่วยลอกผิวและสมานส้นเท้าที่แตกได้เป็นอย่างดี
- นมสด ต้มนมสด 1 ถ้วยให้เดือด เติมน้ำมะนาวกับกลีเซอรีน 1 ช้อนชาลงไป คนให้เข้ากันแล้วทิ้งไว้ให้เย็นประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นล้างเท้าให้สะอาด แล้วนำส่วนผสมสุดเจ๋งนี้มาทาให้ทั่วส้นเท้าก่อนเข้านอน แล้วก็ ใส่ถุงเท้าฝ้ายทับ เค้าว่าตื่นเช้ามา..อาการส้นเท้าแตกจะดีขึ้นทันตาเห็น ลองดูสิคะ
- น้ำมะนาว นำน้ำมะนาวกับดินสอพองมาผสมกันทาบริเวณที่แตกก่อนนอนทุกคืน แผลก็จะค่อยๆ ดีขึ้นค่ะ
- ยางมะละกอ นำเอายางมะละกอสดมาทาบริเวณส้นเท้าแตกก่อนนอนทุกคืน ส้นเท้าที่แตกจะค่อยๆ จางหายไป
- ยางของต้นรัก นำยางของต้นรักมาทาส้นเท้าที่แตกทุกวัน เค้าว่าประมาณ 1-2 อาทิตย์ จะเห็นผลค่ะ
- สารส้ม ต้องเป็นสารส้มอย่างดี นำมาผสมน้ำแล้วเอาสำลีชุบถูตามที่แตก ทิ้งไว้นานๆ ส้นเท้าที่แตกก็ดีขึ้น
- แช่เท้าในน้ำอุ่นประมาณ 15 นาที จากนั้นให้ใช้หินสำหรับขัดเท้าถูเบา ๆ ตรงบริเวณรอยแตก โดยให้ทำแบบนี้อาทิตย์ 2-3 ครั้ง ซึ่งการขัดด้วยหินจะช่วยขจัดเซลล์ของผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป จากนั้นล้างเท้าให้สะอาด ใช้ผ้าขนหนูเช็ดให้แห้ง เสร็จแล้วให้ทาครีมสำหรับรักษาอาการส้นเท้าแตก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีส่วนผสมของยูเรียที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยบรรเทาให้อาการส้นเท้าแตกดีขึ้นได้
- ก่อนนอนควรสวมถุงเท้าเอาไว้ เพื่อคงความชุ่มชื้นของส้นเท้าให้อยู่ตลอดคืน หากทำแบบนี้เป็นประจำจะทำให้ส้นเท้าหายจากอาการแตก และมีผิวเนียนนุ่มขึ้น
- ในระหว่างที่รักษาอาการส้นเท้าแตกควรทาครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับส้นเท้าบ่อย ๆ รวมถึงควรใส่รองเท้าปิดส้นจนกว่าผิวที่ส้นเท้าจะกลับมานุ่มเป็นปกติ
- สำหรับใครที่มีอาการหนักจนส้นเท้าแตกเป็นรอยเลือดและมีอาการเจ็บแสบ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อทำการรักษาให้ตรงจุด ซึ่งจะช่วยให้อาการส้นเท้าแตกหายได้เร็วขึ้น
วิธีป้องกันส้นเท้าแตก
- เมื่ออยู่ในบ้าน ควรใส่รองเท้า หรือ ถุงเท้า สำหรับเดินในบ้านเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เท้าเย็นจนขาดความชุ่มชื้นและช่วยลดไม่ให้ส้นเท้ากระแทกกับพื้นแรงจนเกินไป หากต้องเดินเท้าเปล่าบนพื้นเย็น ๆ ควรทาครีม วาสลีน หรือมอยส์เจอไรเซอร์ที่ส้นเท้าเสียก่อน
- เลือกรองเท้าให้มีขนาดพอดีกับเท้า มีคุณภาพ ใส่แล้วไม่คับ และพื้นไม่แข็งจนเกินไป
- ควรใส่ถุงเท้าเวลานอนเป็นประจำ เพื่อลดการสูญเสียความชุ่มชื้นจากผิวหนัง ปัจจุบันมีซิลิโคนและอุปกรณ์ที่ช่วยถนอมเท้ามากมาย ทั้งส้นเท้า นิ้วเท้า ฝ่าเท้า ฯลฯ ซึ่งทำให้ใช้ได้ผลดีและสะดวกยิ่งขึ้น
- ในกรณีคนอ้วน ควรลดน้ำหนักลง เพราะนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาส้นเท้าแตกแล้ว ยังจะมีข้อดีอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย เช่น กลับมามีรูปร่างดี และลดอัตราการเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ อันเกิดจากสาเหตุโรคอ้วน เป็นต้น
- ทำความสะอาดเท้าพอสมควร อย่าใช้สบู่แช่น้ำนานๆ ผิวเท้าที่แตกแห้งจะยิ่งอาการหนักมากขึ้น
- หลังทำความสะอาดโดยการขัดหรือแปรง ควรทาครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นทุกครั้ง ทางที่ดี ควรใส่รองเท้าปิดส้นจนกว่าผิวจะปกติ
- ถ้าเป็นร่องลึกเจ็บ อาจปิดร่องด้วยกาวตราช้างเพื่อทุเลาอาการเจ็บ กาวจะหลุดออกเองภายหลัง
- ควรใส่รองเท้าหรือถุงเท้าเป็นประจำ นอกจากช่วยปกปิดส้นเท้าไม่ให้คราบสกปรกสะสมแล้ว ยังช่วยลดการสูญเสียน้ำจากผิวหนังได้
เมื่อรู้สาเหตุและวิธีรักษาส้นเท้าแตกให้กลับมาเนียนนุ่มกันไปแล้ว สาว ๆ ควรป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นได้อีกนะคะ เพราะหากหน้าสวยแต่ส้นเท้าแตกดูแล้วเสียบุคลิกแย่เลย ทางที่ดีควรจะป้องกันไว้ก่อนดีกว่านะคะสาว ๆ
ที่มา http://women.kapook.com/view100410.html
http://www.ladytip.com/health-beauty/heel-care.html
สั่งผลิตภัณฑ์บำรุงส้นเท้าแตกกับทางเราได้เช่นกัน คลิกเลย!
👉 https://www.sjgadget.com/category/66/
230/52 ถนนลาดพร้าวซอย 1 แยก 27 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.10900
ผู้ชมทั้งหมด | 3,238,048 ครั้ง |
เปิดร้าน | 10 ก.ค. 2555 |